MOU ครั้งสำคัญ! บมจ.สแกน อินเตอร์ และ AIKO Energy ร่วมขับเคลื่อนโซล่าร์พาวเวอร์ในไทย
26 กุมภาพันธ์ 2568

เมื่อวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 บริษัท สแกน อินเตอร์ จากัด (มหาชน) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท เอเซีย แปซิฟิค เจ้อเจียง ไอโกะ โซลาร์ จากัด ณ สานักงานใหญ่ของ บมจ.สแกน อินเตอร์ จังหวัดนนทบุรี เพื่อวางรากฐานความร่วมมือด้านพลังงานแสงอาทิตย์และการจัดซื้อแผงโซลาร์เซลล์ในประเทศไทย
การลงนามครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความร่วมมือทางธุรกิจและพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย ภายใต้โครงการผลิตไฟฟ้าตามมาตรการสนับสนุน (Feed-in-Tariff Program) รวมถึงโครงการโซลาร์รูฟท็อปอื่นๆ โดย บมจ.สแกน อินเตอร์ รับผิดชอบการจัดซื้อแผงโซลาร์เซลล์และการดาเนินงานด้าน EPC (Engineering, Procurement, and Construction) ซึ่งคาดการณ์ว่าภายในปี พ.ศ. 2573 บริษัทจะมีการจัดซื้อแผงโซลาร์เซลล์ปริมาณรวม 200 เมกะวัตต์
พิธีลงนาม MOU ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองบริษัทเข้าร่วมได้แก่ คุณธัญชาติ กิจพิพิธ ประธานกรรมการบริหารจาก บมจ.สแกน อินเตอร์ รวมถึง นายกัณฐนันท์ สุขจันทร์ ผู้จัดการภูมิภาคด้านเทคนิคและโซลูชัน เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จาก ไอโกะ โซลาร์
คุณธัญชาติ กิจพิพิธ ประธานกรรมการบริหารจาก บมจ.สแกน อินเตอร์ กล่าวว่า “ภายใต้ MOU นี้ เรามีเป้าหมายสาคัญ 3 ประการ คือ ติดตั้งและขยายระบบพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยแผงโซลาร์เซลล์ประสิทธิภาพสูงจาก ไอโกะ โซลาร์ เพื่อเพิ่มกาลังการผลิตพลังงานสะอาด พัฒนาโซลูชันพลังงานอัจฉริยะให้การบริหารจัดการพลังงานมีประสิทธิภาพสูงสุด และผลักดันพลังงานสะอาดสู่ภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียว” นอกจากนี้ พิธีลงนามยังมี คุณกุศลิน ธรรมเจริญกิจ ผู้บริหารฝ่ายการตลาดจาก บริษัท แอลที เอนเนอร์ยี่ 4 จากัด ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งแสดงถึงความร่วมมือของพันธมิตรที่มีบทบาทสาคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดของไทย

ทั้งนี้ บมจ.สแกน อินเตอร์ ยังร่วมเป็นพันธมิตรกับ แอลที เอนเนอร์ยี่ 4 เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน และมีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยให้โครงการของเราสามารถขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จาก ไอโกะ โซลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลก การลงนามครั้งนี้ถือเป็นก้าวสาคัญในการร่วมกันผลักดันการใช้พลังงานสะอาด พร้อมทั้งสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป